ปัญญาประดิษฐ์จะออกมาคิด คิดค้น และวางกลยุทธ์กับมนุษย์ในทุกระดับ หนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการปะทะกันระหว่าง AI และมนุษย์ในแง่ของนวัตกรรมและสติปัญญาของมนุษย์ ลองพิจารณาสิ่งนี้ ในอนาคตปัญญาประดิษฐ์จะขับเคลื่อนสังคมและอารยธรรมของเราด้วยวิธีการและกระบวนการที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุด มนุษย์จะถูกคาดหวังให้ปฏิบัติตามบรรทัดฐานใหม่ที่ระบบ AI สร้างขึ้นเพียงเพราะถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์สูงสุด
จำนวนคำตอบที่เป็นไปได้สำหรับทุกสิ่ง ทุกคำถาม จะลดลงเหลือเพียงคำตอบที่ดีที่สุดเพียงคำตอบเดียว โดยมีคำตอบที่แน่นอนสำหรับการถอดความเล็กน้อย ซึ่งจะมีคำตอบเดียวที่ถูกด้วย มนุษย์จะถูกคาดหวังให้เชื่อในคำตอบของ AI มากกว่าความคิดและเหตุผลของตนเอง ดังนั้น ในที่สุดมนุษย์จะหยุดคิดและให้เหตุผล – สูญเสียความสามารถในการคิดแนวคิดและแนวคิดใหม่ ๆ หรือวิธีแก้ปัญหาใหม่ ๆ ร่วมกัน เช่นเดียวกับที่สัตว์เลี้ยงในบ้านมีสมองที่เล็กกว่าสัตว์ป่าที่มีลำดับพันธุกรรมที่แน่นอนเหมือนกัน เมื่อพูดถึงสมอง คุณใช้มันหรือทำมันหาย
เช่นเดียวกับในเทนนิส เกมจะชนะด้วยเปอร์เซ็นต์ช็อตที่ปลอดภัยที่สุดและดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องเป็นช็อตหลอก – AI จะเอนเอียงไปทางและมีอคติต่อเปอร์เซ็นต์ช็อต เนื่องจากเป็นระบบที่อิงตามความน่าจะเป็น มนุษย์อาจเก่งในการแก้ปัญหาที่พลิกแพลงเป็นครั้งคราว แต่ในที่สุดแล้ว ต้นแบบของสังคมและอารยธรรมจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ ไม่ใช่ปัญญาด้อยกว่ามนุษย์
มนุษย์ที่มีส่วนร่วมในการเขียนโปรแกรมและการปรับแต่ง AI ในระยะเริ่มต้นจะยังคงความสามารถในการแก้ปัญหาและสร้างความคิดดั้งเดิมที่ไม่เหมือนใครด้วยการทำงานร่วมกับ AI เป็นทีม ซึ่งผสมผสานสิ่งที่ดีที่สุดของ AI กับความคิดและข้อมูลเชิงลึกของมนุษย์ แต่อนิจจาในที่สุด AI จะปรับแต่งตัวเองและมนุษย์ก็ไม่จำเป็นต้องคิดเลย AI จะเรียนรู้สิ่งที่ดีที่สุดที่สมองมนุษย์มีให้และรู้ข้อมูลนั้นอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องป้อนข้อมูลจากมนุษย์อีก
‘ความสุขจากการไม่รู้’ ก็เช่นกัน – ยากที่จะพูด แต่เราอาจพบว่าเป็นสปีชีส์เร็วพอหากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความคิดที่เป็นนวัตกรรมของมนุษย์ยังคงดำเนินต่อไปในเส้นทางปัจจุบัน นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ – เป็นสิ่งที่เราได้เริ่มดำเนินการแล้ว ปัญญาประดิษฐ์ไม่ได้ดีหรือไม่ดี แต่ใคร ๆ ก็โต้แย้งได้ว่ามันดีเป็นส่วนใหญ่ คิดเกี่ยวกับสิ่งนี้.